เลือกสีเต็นท์อย่างไรดี ?
สิ่งหนึ่งที่น้อยครั้ง มักจะได้ยินคนพูดถึงกันเวลาเลือกซื้อเต็นท์ ก็คือ เรื่องของสี เต็นท์ที่ดี ควรจะสีอะไรมักจะเป็นประเด็นที่ถูกมองข้ามอยู่เสมอๆ เวลาที่มีลูกค้ามาเลือกซื้อเต็นท์ที่ร้าน Pete & Paul ของผม ส่วนใหญ่ลูกค้ามักจะให้ความสนใจในประเด็นเรื่องของ การเป็น Free Standing , การเป็น Single Wall หรือ Double Wall , วัสดุเสาทำจากไฟเบอร์หรืออลูมิเนียม ผ้าเต็นท์ทำจากผ้าอะไร ขนาดนอนได้กี่คน น้ำหนักเท่าไหร่ พับเก็บแล้วใหญ่ไหม กันน้ำดีไหม เจอฝนหนัก ลมแรงจะอยู่รอดไหม เรื่องการไหลเวียนของอากาศเป็นยังไง จะมีหยดน้ำค้างข้างในไหม ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นคำถามที่ผมมักจะให้คำแนะนำลูกค้าอยู่เป็นประจำเวลาที่มาซื้อเต็นท์ แน่นอนผมก็มั่นใจว่าตัวผมเองตอบข้อซักถามทุกข้อได้อย่างชัดเจน ถูกต้อง ตามหลักวิชา ทำตัวเป็นคนขายที่ดีคือไม่ได้ชี้นำ แต่ชี้ให้เห็นข้อดีข้อเสีย แล้วให้ผู้ใช้เลือกตามลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมกับความต้องการตัวเอง แต่มาระยะหลังนี่ผมมีความสงสัยเพิ่มเติมขึ้นมาประเด็นหนึ่ง ซึ่งน้อยคนจะถาม ก็คือ เรื่องของ ผลกระทบของสีเต็นท์ … นั่นก็เลยเป็นที่มาของบทความนี้ ในชื่อเรื่องว่า … เลือกสีเต็นท์อย่างไรถึงจะเหมาะกับเรา ?
เต็นท์แบบดั้งเดิม สีเขียว ที่เน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ ดูแล้วสบายตา
การเลือกสีเต็นท์นั้นจะใช้ความชอบมาเลือกอย่างเดียวก็ดูจะกระไรอยู่ มันมีหลักวิชาของมันอยู่บ้างครับ นอกเหนือจากอารมณ์เวลาที่เรามองสีต่างๆ ที่เราคงเคยได้เรียนมาบ้างในวิชาศิลปะสมัยเรียนประถมหรือมัธยม ยกตัวอย่างอารมณ์ของสีหลักๆ ก็เช่น
- สีแดง ให้ความรู้สึก ร้อนแรง โกรธเกรี้ยว ดุดัน ความหวาดกลัว พลังอำนาจ ความรัก ความมุ่งมั่น
- สีส้ม เป็นสีผสมระหว่างสีแดงกับสีเหลือง ให้ความรู้สึก ของความสุข ความสำเร็จ ความดึงดูด ความมุ่งมั่น ความอบอุ่น ความสดใส มีชีวิตชีวา
- สีเหลือง เป็นสีที่ให้อารมณ์ ความสุข กระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้น ความอบอุ่น
- สีเขียว เป็นสีของธรรมชาติ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ความปลอดภัย ความกลมกลืน ความสดชื่น
- สีฟ้าให้ความรู้สึกที่ตรงข้ามกับแดง คือให้ความรู้สึกสงบเงียบ ให้ความรู้สึกว่าเชื่อใจได้ พึ่งพาได้ ความฉลาด ความมั่นใจ เป็นต้น
- สีม่วง แสดงออกถึง ความสูงศักดิ์ เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ น่าติดตาม เร้นลับ
- สีขาวให้ความรู้สึกของความบริสุทธิ์ สว่าง ความสมบูรณ์แบบ ความเปิดเผย
- สีดำ ให้อารมณ์เยือกเย็น ลึกลับ สง่างาม แสดงออกถึงความเป็นทางการ
เต็นท์แนวแฟชั่น ลวดลาย สีสันสดใส
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.
เต็นท์ Naturehike รุ่น Mongar 2 ขนาดสำหรับ 2 คน ผลิตมา 3 สี ให้เลือก คือ เทาขาว / เขียวโทนสว่าง / ม่วงโทนมืด
การมองเห็นได้ง่าย ปัจจุบันวัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะใช้เต็นท์ที่มีสีสดมากขึ้น บางผู้ผลิตใช้สีสะท้อนแสงมาผลิตเป็นเต็นท์ ซึ่งก็จะมีข้อดีตรงความเด่น มองเห็นได้ง่าย สามารถเดินกลับเต็นท์ได้ง่าย แม้จะอยู่ในความมืด หรืออยู่ในป่า เพราะมองเห็นได้แต่ไกล ซึ่งสอดคล้องกับหน่วยกู้ภัยที่มักจะเสนอแนะให้ เลือกใช้สีที่สว่างเด่นและมองเห็นได้ชัดเจน ลองนึกภาพคุณกำลังรอให้เฮลิคอปเตอร์ช่วยเหลือมาสิครับ เฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่เหนือภูเขาหิมะ แล้วมองลงมาด้านล่าง ถ้ามองลงมาเห็นเต็นท์สีเขียวเหมือนต้นไม้ ก็อาจจะมองผ่านไป แต่ถ้าเป็นเต็นท์สีแดงสดก็จะค้นหาทางอากาศได้ง่ายกว่าเยอะ
ความสว่างภายในเต็นท์ การเลือกใช้สีโทนสว่างจะมีผลในเรื่องของความสว่างในเต็นท์ที่มากกว่า ช่วยให้คนที่อยู่ข้างในเต็นท์มองเห็นได้ง่ายกว่าเต็นท์ที่เป็นสีโทนมืด ในขณะที่สีโทนมืดก็เหมาะกับการใช้เต็นท์เป็นทีี่หลับผักผ่อนได้ง่าย แม้ในเวลากลางวัน
การดูดกลืนความร้อน สีโทนสว่างจะช่วยสะท้อนความร้อนออกได้มากกว่าโทนมืด เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศร้อนมากกว่า ในขณะที่สีโทนมืดจะดูดซึมความร้อนได้มากกว่า เหมาะกับการใช้งานในสภาพอากาศที่หนาวเย็น
แต่ละโทนสีก็มีข้อดีข้อเสียของตัวเอง อยู่ที่ลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเดินทางผู้มีใจรักในธรรมชาติแล้ว จะนิยมใช้สีโทนมืดมากกว่า เนื่องจากการใช้สีโทนสว่าง โดยเฉพาะสีโทนสว่างที่สะท้อนแสงมากเกินไปนั้น จะส่งผลกระทบในเรื่องของสภาพแวดล้อม ซึ่งขัดกับปรัชญา Leave no trace (LNT) อันเป็นหลักปฏิบัติที่นักเดินป่าทั่วโลกยึดถือปฏิบัติกัน หลักการนี้บอกว่า การที่เราเข้าป่าหรือตั้งแค็มป์ตามอุทยาน ให้เราทำตัวเสมือนว่าตัวเราไม่เคยเข้าไปอยู่ตรงนั้น พูดง่ายๆ คือพยายามลดการรบกวนทางธรรมชาติให้น้อยที่สุด เพราะทุกอย่างที่เราทำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งหมด การเลือกใช้เต็นท์ที่สีจัด หรือสดจนเกินไป จะเป็นการสร้างมลภาวะทางสายตา แน่นอนว่ามีผลกระทบต่อนักเดินทางที่อยากจะปลีกวิเวกมาชื่นชมกับธรรมชาติ แสวงหาความสงบ คุณคงไม่อยากเดินป่าไปแล้วเจอเต็นท์สีสดจนแสบตามองเห็นได้แต่ไกลเป็นแน่แท้ นอกจากนั้นยังเป็นการรบกวนต่อสัตว์ป่าด้วย เพราะสัตว์ป่าก็สามารถมองเห็นสีที่แตกต่างจากสภาพธรรมชาติได้เช่นกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ผลิตเต็นท์ส่วนใหญ่ถึงมักจะทำสีเต็นท์ที่เข้ม เช่น เขียวเข้ม เทา น้ำตาล กัน ด้วยเหตุผลเพื่อให้เกิดความกลมกลืนกับธรรมชาตินั่นเอง
บทส่งท้าย
การเลือกสีของเต็นท์มีความเกี่ยวพันกับวัตถุประสงค์การใช้งานของผู้ใช้ ว่าต้องการให้เต็นท์ของตัวเองดูเด่นสะดุดตา หรืออยากให้เต็นท์ของตัวเองกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ซึ่งประการนี้เป็นทางเลือกสำหรับนักเดินทางทุกท่านที่ต้องเลือกเองส่วนตัวผมเอง .. ผมชอบที่เดินทางสายกลาง ส่วนหนึ่งก็คือให้สีเต็นท์กลมกลืนกับธรรมชาติ แต่สีก็ต้องสวยให้ถูกใจผุ้ใช้ แต่ก็ไม่ควรจะเด่นเกินไปจนรบกวนสายตาคนอื่น
สุดท้ายนี้ผมอยากทิ้งท้ายไว้ว่านิดหน่อยว่า จะสีโทนสว่างหรือสีโทนมืดก็ตาม คงไม่มีใครอยากไปกางเต็นท์ เข้าป่าเพื่อชื่นชมธรรมชาติ แล้วรู้สึกเหมือนเดินอยู่ท่ามกลางแสงไฟนีออนสีสันสดใสเหมือนเดินอยู่ที่ลาสเวกัสหรอกครับ