STOP เมื่อคุณหลงทาง

สิงหาคม 23, 2017 เทคนิคการเดินทาง

ลองจินตนาการดูว่า ถ้าระหว่างที่คุณกำลังเดินป่าอยู่ แล้วอยู่ดีๆ คุณมองไปรอบตัว ทางที่คุณคิดว่าเป็นทางปกติ กลับไม่ใช่ เพื่อนที่เคยเดินมาด้วยกันก็หายไปไหนไม่รู้ เหลียวมองไปรอบตัวก็ไม่เห็นใคร นั่นแสดงว่า … คุณอาจจะหลงทางแล้วหล่ะครับ

สิ่งที่คุณควรจะทำเมื่อหลงทางเป็นอย่างแรกเลย ก็คือ … “การยอมรับว่าตัวเองกำลังหลงทางอยู่” ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ อันนี้สำคัญมากๆ เพราะถ้าหากคุณยังคิดว่าตัวเองเดินถูกทาง คุณก็จะยิ่งหลงไปไกลออกไปเรื่อยๆ จนยากที่จะกลับมาทางหลักได้ คนที่ออกมาค้นหาคุณก็จะหาไม่เจอ  หลังจากนั้นเมื่อเรายอมรับว่าเราหลงทางแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมาก็คือใช้หลักการ STOP ซึ่งผมกำลังจะเล่าให้ฟังในอีกไม่ช้า ใจเย็นๆครับ

หลัก STOP

เมื่่อไหร่ก็ตามที่คุณหลงทาง ให้นึกถึงคำว่า “STOP” ไว้นะครับ ในที่นี้เป็นตัวย่อ เพื่อให้จำได้ง่าย STOP จะประกอบด้วย ตัว S (Stop) , T (Think) , O (Observe) และ P (Plan)  ความหมายของแต่ละตัวก็คือ

  • S (Stop) หรือ “หยุด” ก็มาจากหยุดนี่แหละครับ เมื่อเรารู้ว่าตัวเองหลงทางแล้ว ที่ต้องทำต่อมาก็คือ “หยุด” หยุด ณ ตรงนั้นก่อน แล้วก็นั่งพัก หายใจลึกๆ แล้วตั้งสติให้ดีๆ แล้วค่อยไปต่อข้อต่อไป
  • T (Think) หรือ “คิด” ลองทบทวนความจำดูว่า เรามาอยู่ตรงจุดนี้ได้อย่างไร ลองนึกถึงจุดสังเกตที่อยู่บนทางเดินหลักดู ครั้งล่าสุดที่คุณเห็นเครื่องหมายบอกทาง หรือ อะไรก็ตามที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเป็นทางเดินที่ถูกต้องมันคือตรงไหน เมื่อไหร่ ถ้าไม่ไกลและคิดว่ากลับไปตำแหน่งนั้นได้ ก็ให้เดินกลับไปเลยครับ แต่ถ้าไม่รู้ตัวว่าอยู่ตรงไหน ก็แนะนำให้นั่งลง แล้วสำรวจสิ่งของที่มีในกระเป่า สำรวจดูว่าเรามีอะไรเอามาใช้ได้บ้าง ถ้าเราเตรียมตัวมาดี เราจะไม่ตื่นตระหนกเลย

อุปกรณ์ที่แนะนำว่าควรจะต้องมีติดกระเป๋าตัวเองเลย ห้ามฝากไว้กับคนอื่น เผื่อกรณีฉุกเฉินเลยก็ได้แก่ มีด , อาหาร , น้ำดื่ม , เครื่อกรองน้ำพกพา , ไฟแช็ค , นกหวีด , เข็มทิศ , แผนที่ ผ้าห่มฉุกเฉิน เชือก เป็นต้น อุปกรณ์พวกนี้จะช่วยให้คุณเอาตัวรอดได้  ยกตัวอย่าง เช่น มีด กับเชือก ก็ใช้ในการสร้างที่กำบังเพื่อหลบความหนาวระหว่างรอความช่วยเหลือ นกหวีดก็เอาไว้เป่าขอความช่วยเหลือ  เข็มทิศ แผนที่ ก็เอาไว้ใช้หาทิศทาง หรือตำแหน่งที่เราอยู่ เป็นต้น

ภาพตัวอย่างที่กำบังชั่วคราว สำหรับหลบหนาวระหว่างรอความช่วยเหลือ

  • O (Observe) สังเกตุ ให้เราลองมองไปรอบๆ ตัว แล้วลองสังเกตุดูว่ามีจุดสังเกตุอะไรอยู่บ้าง ถ้ามีแผนที่กับเข็มทิศอยู่ก็ให้พยายามกำหนดตำแหน่งบนแผนที่ให้ได้ และถ้ามีเนินใกล้ๆ ก็ให้ลองเดินขึ้นไปบนเนิน เพื่อดูสภาพแวดล้อมโดยรอบ
  • P (Plan) วางแผนการ ตั้งสติไว้ แล้วนึกแผนการ หรีอทางเลือกที่มี ว่าจะทำยังไงต่อ แผนการจะต้องพิจารณาถึง เวลา ณ ขณะนั้น สภาพร่างกาย อุปกรณ์ที่เรามี  ตำแหน่งที่เราอยู่ ถ้าประมวลแล้วไปต่อได้ ก็ให้ไปต่อ แต่ถ้าดูแล้วไม่น่าจะได้ ก็ให้หยุด แล้วรอความช่วยเหลือ เช่น ถ้าเวลาเริ่มพลบค่ำแล้ว ก็ไม่ควรจะเดินต่อ เพราะความมืดจะทำให้เราหลงทิศได้ง่ายขึ้น

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

ถ้าคุณมีโทรศัพท์มือถือและอยู่ในบริเวณที่มีสัญญาณ ให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นก่อนไปเดิน ควรจะมีเบอร์โทรศัพท์สำหรับกรณีฉุกเฉินติดไว้ด้วย ในเส้นทางที่ได้มาตรฐานมักจะมีป้ายติดแจ้งว่าหากเกิดเหตุขึ้นควรจะติดต่อที่ไหน สัญญาณโทรศัพท์ก็สามารถใช้ในการติดตามหาตำแหน่งที่คุณอยู่ได้ ถ้าคุณมีอุปกรณ์ในการแจ้งตำแหน่ง เช่น เครื่องมือส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ (อันนี้ผมเคยเจอบางเส้นทางที่เค้าจะบังคับให้ทุกคนที่เข้าไปเดินต้องพกเครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉินไปด้วย ต้องเช่านะครับ เค้าไม่ได้ให้ยืม)  เวลาเกิดเหตุก็สามารถกดปุ่มเพื่อขอความช่วยเหลือได้ จะมีทีมงานช่วยเหลือมาภายใน 24 ชั่วโมง

แต่ถ้าจนแล้วจนรอด คุณไม่สามารถแจ้งใครได้เลย คนที่คุณบอกเค้าไว้ว่าคุณจะไปที่ไหน จะเป็นคนติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตามหาตัวคุณเองกรณีที่คุณหายไปนานกว่ากำหนดการ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน มีแผนการอย่างไร ก็ควรจะบอกให้ครอบครัว หรือคนรู้จักให้รู้ด้วย ถ้าไม่ได้แจ้งใครก็ควรจะแจ้งแผนการเดินทางให้เจ้าหน้าที่อุทยานรู้ด้วย

แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ คุณก็ไม่รู้ว่าคุณอยู่ตรงไหน สัญลักษณ์บอกทางก็ไม่เห็น จุดสังเกตุหลักก็จำไม่ได้ หรือเดินกลับไปไม่ถูก คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ อยู่กับที่แล้วคอยจนกว่าจะมีคนมาตามหาคุณ การเดินหาทางไปเรื่อยๆ จะทำให้ทีมค้นหากำหนดตำแหน่งของคุณได้ยากกว่าเดิม ซึ่งอาจะทำให้เกิดอันตรายได้ เคยมีคนที่แนะนำให้เดินไปตามลำธาร หรือแม่น้ำ  โดยเข้าใจว่าจะพาไปสู่ทางออกได้ ต้องบอกว่าเป็นความคิดที่ผิดนะครับ เพราะส่วนใหญ่แล้ว ทางเดินยากๆ มักจะอยู่ตามริมลำธารหรือแม่น้ำ วิธีที่ดีที่สุดคือ อยู่กับที่แล้วรอให้คนมาตามหาคุณเอง ระหว่างที่รอก็อาจจะใช้นกหวีดขอความช่วยเหลือ  โดยเป่าทุก 3 ครั้งติดๆกัน แล้วเว้น 30 วินาที แล้วค่อยทำซ้ำวนไปเรื่อยๆ อย่าลืมเว้นช่วงฟังเสียงคนตอบรับด้วยนะครับ

สรุปจบ

เราจะเห็นว่าการเดินหลงทางเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ เราทุกคนจึงควรจะจดจำหลัก STOP นี้ให้ขึ้นใจ และอุปกรณ์จำเป็นก็ควรจะมีติดกระเป๋าตัวเองไว้ด้วย อย่าไปฝากคนอื่นถือหมดนะครับ เผื่อเวลาจำเป็นจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ พึงระลึกไว้ว่า มีแต่ตัวเราเองที่เป็นที่พึ่งของเรา

แล้วพบกันใหม่ อย่าลืมนะครับว่าอุปกรณ์ที่ดี … ก็ต้องมากับความรู้ที่ดีด้วย

พีท